บูธถ่ายรูปธีม Happy Mini-Mart เปิดตัวด้วยผู้คนจำนวนมาก

1.การนําเสนอ
บูธถ่ายรูปในธีมร้านสะดวกซื้อแฮปปี้ มินิ มาร์ท ในวันเปิดตัวได้กลายเป็นเหตุการณ์ทางสังคมที่ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในด้านสังคม แต่ยังประสบความสำเร็จในเชิงวัฒนธรรมอีกด้วย โดยตั้งอยู่ในย่านช้อปปิ้งใจกลางเมือง การตกแต่งที่สดใสและโต้ตอบได้ดึงดูดผู้คนนับพันที่ต้องการสัมผัสขอบเขตของโลกแฟนตาซีที่อดีตและอนาคตไม่ได้ต่อสู้กัน แต่กลับชนกันในภาคค้าปลีกและเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากจะเป็นการจำลองรูปแบบของร้านเล็กๆ ในท้องถิ่นแล้ว บูธนี้ไม่ใช่แค่โอกาสในการถ่ายภาพ แต่ยังเป็นการเดินทางทางอารมณ์ผ่านทุกประสาทสัมผัสของแขกที่เข้าร่วม
ในช่วงสุดสัปดาห์เปิดงาน สถานที่เต็มไปด้วยผู้คนจากทุกสาขาอาชีพ ไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์แนวหน้าที่มาโชว์ตัว แต่ยังเป็นความสุขที่ได้เห็นครอบครัวที่ตื่นเต้นและคู่รักหนุ่มสาวที่กลับบ้านพร้อมกับภาพถ่ายที่น่าจดจำ เมื่อผู้คนเริ่มต่อแถวเข้ามา พื้นที่นี้ก็กลายเป็นจุดฮอตที่สุดในเมืองอย่างรวดเร็ว
บูธถ่ายภาพธีมร้านสะดวกซื้อแฮปปี้ มินิมาร์ท ที่ดูแลโดยทีมครีเอทีฟผู้มากประสบการณ์ และร่วมผลิตโดยกลุ่มแบรนด์สตรีท เป็นตัวอย่างของการเคลื่อนไหวเพื่อเสริมพลังความบันเทิงที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ บทความนี้จะพูดถึงด้านต่างๆ ของกีออส แนวคิดเบื้องหลัง การเปิดตัวในวันเปิดตัว รวมถึงการออกแบบ ชุมชน และอนาคตของโครงการใหม่นี้
2. แนวคิดเบื้องหลังบูธถ่ายภาพ
จุดเริ่มต้นของบูธถ่ายภาพธีมร้านสะดวกซื้อแฮปปี้ มินิมาร์ท เป็นการผสมผสานหลากหลายของสามองค์ประกอบ ได้แก่ ความงามแห่งความทรงจำ วัฒนธรรมสมัยนิยม และการเล่าเรื่องผ่านภาพของยุคปัจจุบัน ดีไซเนอร์หนุ่มสาว นักการตลาด และสถาปนิกประสบการณ์ได้สร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ขึ้น เพราะพวกเขาต้องการสร้างสถานที่ให้ผู้เยี่ยมชมสามารถสร้างสรรค์ความงามแบบเก่าและความอบอุ่นของร้านมุมถนน แต่ยังคงเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ที่เน้นการถ่ายภาพซึ่งโซเชียลมีเดียกำลังครอบงำอยู่
จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์การออกแบบมาจากความพยายามในการสำรวจร้านขายของชำขนาดเล็กจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น konbini จากญี่ปุ่น หรือ bodega ในสไตล์อเมริกันย้อนยุค (แต่ละองค์ประกอบได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบบูธสุดท้าย) การติดตั้งแบบเหนือจริงเกิดขึ้นจากการทำโครงการที่เหมือนการจำลองสถานที่ โดยทุกอย่างถูกนำเสนอในรูปแบบการขยายความจริงอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ไปจนถึงความหลากหลายของสินค้าที่แสดงในพื้นที่แช่เย็น และเคาน์เตอร์เช็คเอาต์แบบกล่องที่สมบูรณ์ที่สุด
ความโดดเด่นเฉพาะตัวของบูธมาจากการนำเสนอที่แปลกใหม่: มันไม่ใช่เพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอกของร้าน—pastmartz — แต่มันเป็นวิสัยทัศน์ที่แตกต่างและเหนือจริง สีของชั้นวางสินค้าได้รับการเลือกอย่างรอบคอบ เพื่อจัดวางให้สวยงามและประสานสีเข้าด้วยกัน บรรจุภัณฑ์ของสินค้ามีโลโก้ที่สนุกสนาน เช่น "Smiley Cola" และ "Happy Chips" แสงไฟมีลักษณะเหมือนในภาพยนตร์ มีสองประเภท; เป็นแสงที่แข็งแรง
แนวคิดนี้ยังได้นำเอาองค์ประกอบที่สร้างความรู้สึกถึงความ nostalgict – เช่น คุณสามารถเห็นป้ายราคาจากยุค 90 ป้ายลดราคาที่เขียนด้วยมือ และเครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบเก่า – แต่ทั้งหมดถูกนำมาใช้อย่างมีอารมณ์ขัน คนที่มาเยือนสามารถช่วยตัวเองหาเครื่องกระเบื้องที่สามารถใช้เป็นพร็อพได้ เช่น ห่อหมากฝรั่งที่ติดฉลากว่า “Selfie Juice” หรือกล่องซีเรียลที่ชื่อว่า “Influencer Flakes”
เหนือสิ่งอื่นใด แผนนี้เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของเวลาและวัฒนธรรม มันเป็นคำเชิญชวนอย่างเปิดกว้างให้ทุกคนได้หวนกลับไปสู่สิ่งที่เคยรู้สึกใกล้เคียงเพราะลักษณะที่คล้ายคลึงกัน และพาไปสู่สถานที่ที่แตกต่างอย่างชัดเจน แต่มีความสะดวกสบายเหมือนตอนที่พวกเขานึกถึงการเดินทางในวัยเด็กไปยังร้านค้าต่าง ๆ โดยเพิ่มประกายความสวยงามของสื่อสังคมออนไลน์เข้าไป
3. ไฮไลท์ในวันเปิดตัว
การเปิดตัวบูธถ่ายภาพธีม Happy Mini-Mart ในวันแรกเป็นเหตุการณ์ที่น่าจดจำ กิจกรรมนี้ได้จัดขึ้นในช่วงเย็นวันศุกร์ ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะสามารถดึงดูดผู้คน (ทั้งผู้เดินเท้าและช่วงหยุดพักเรียน) ที่อาจมาในช่วงสุดสัปดาห์ได้ และผู้จัดงานก็ได้ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมเหล่านี้อย่างเต็มที่ บูธเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 16:00 น. และผู้คนก็เริ่มต่อคิวกันแล้ว
รอบๆ สถานที่ มีทีมงานบนถนนที่ยุ่งอยู่กับการทำกิจกรรมเกมและการแจกของรางวัลฟรี รถบรรทุกชานมไข่มุกแบบพ็อปอัพ จากคอลเลกชันของ Happy Mini-Mart ได้มามอบเครื่องดื่มฟรีให้กับลูกค้าที่ต่อคิวรอคอย เพลงจากดีเจมีจังหวะสนุกสนาน และศิลปินท้องถิ่น เช่น นักโยนลูกบอล นักเต้นสตรีท และคู่ตลก — เปลี่ยนเวียนกันขึ้นแสดงเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมและทำให้ไม่มีใครเบื่อ
พิธีเปิดได้รับเกียรติจากแขกพิเศษอย่างบุคลิกภาพชื่อดังบนโซเชียลมีเดีย ลิลี่ ชู ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการหลงใหลในความงามแบบเรโทร เธอเป็นคนถ่ายภาพทางการใบแรกภายในบูธและไลฟ์สตรีมให้ผู้ติดตามหลายล้านคนของเธอเห็น และบูธนี้ก็กลายเป็นไวรัลทันที
ภายใน กิจกรรมต่างๆ มีคุณภาพยอดเยี่ยม คณะกรรมการต้อนรับประกอบด้วยพนักงานที่ยิ้มแย้มในบทบาทของพนักงานร้านสะดวกซื้อ พวกเขายังใส่ชุดที่น่าขันและมีป้ายชื่อเช่น "กัปตันคูล" และ "มิสซันไชน์" ทุกๆ 15 นาที จะมีเพลงประกอบใหม่เล่นในบูธ ตั้งแต่ J-pop ไปจนถึงเสียงสังเคราะห์ยุค 80s ซึ่งทำให้เซสชันของแต่ละกลุ่มมีเอกลักษณ์
การแข่งขัน "Snack Aisle Showdown" นับเป็นหนึ่งในจุดเด่น โดยท้าทายผู้เข้าร่วมด้วยเวลา 30 วินาทีให้แต่ละบูธแสดงท่าทางที่ดีที่สุดพร้อมกับของว่างสามชนิด ภาพถ่ายของผู้ชนะจะถูกนำไปแสดงบนกำแพงดิจิทัลขณะออกจากงาน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้สนุกกับช่วงเวลาโดดเด่นของตนเอง
ตลอดทั้งวันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงชัตเตอร์กล้อง นอกจากนี้ผู้เยี่ยมชมยังแบ่งปันเนื้อหาอย่างกระตือรือร้นบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ หลายคนใช้บัญชีทางการของบูธหรือเว็บไซต์ และแชร์เนื้อหาพร้อมแฮชแท็ก #HappyMiniMartMoments ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ท้องถิ่นในตอนจบของคืน
4. ลักษณะเฉพาะของบูธถ่ายภาพธีม Happy Mini-Mart
บูธถ่ายภาพธีม Happy Mini-Mart เมื่อเปรียบเทียบกับตู้ขายของแบบดั้งเดิม มีความแตกต่างจากคุณสมบัติที่วางตำแหน่งได้อย่างเหมาะสม ทำให้สภาพแวดล้อมคลาสสิกกลายเป็นเวทีสำหรับนวัตกรรม
การออกแบบภาพ
เริ่มต้นจากจุดทางเข้า บูธนี้ห่อหุ้มแขกผู้มาเยือนด้วยสีสันสดใสหลากหลาย สินค้าเต็มชั้นวางตั้งแต่บนสุดจนถึงล่างสุด นอกจากนี้สินค้ายังถูกจัดหมวดหมู่ตามสี และเป็นฉากหลังที่ยอดเยี่ยมและดึงดูดสายตาสำหรับการถ่ายภาพ เช่น สีชมพูสำหรับของว่าง สีน้ำเงินสำหรับเครื่องดื่ม และสีเหลืองสำหรับของใช้ในห้องน้ำ อย่าลืมลักษณะเฉพาะของร้าน เช่น บาร์โค้ดสีแดงและป้ายราคาสีเหลือง ทุกจุดชำระเงินมีเครื่องแคชเชียร์ที่สามารถใช้ถ่ายภาพได้ และหลอดไฟของเครื่องแคชเชียร์นี้จะแสดงข้อความ 'Total: $0.00' ซึ่งหมายความว่านี่คือบิลของคุณสำหรับคืนนี้ หากคุณถ่ายภาพพร้อมกับเครื่องแคชเชียร์
ตู้แช่ปลอม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบูธ ใช้หลอดไฟและหมอกเพื่อสร้างภาพลวงว่าไอศกรีมถูกแช่แข็ง และด้วยเหตุนี้ จึงสร้างพื้นที่ที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับการถ่ายเซลฟี่ นอกจากนี้ ที่จุดชำระเงิน มีโคมไฟที่เปลี่ยนความสว่างและแสดงข้อมูล "รวม: $ 0.00 เมื่อใช้งาน" ดังนั้น โคมไฟนี้จึงช่วยเสริมไม่เพียงแค่การให้แสงสว่างแก่ฉาก แต่ยังเพิ่มความสนุกสนานให้กับผู้ที่กำลังถ่ายรูปอีกด้วย
พร็อพและปฏิสัมพันธ์
ทุกๆ องค์ประกอบภายในนั้นมีประโยชน์และสนุกสำหรับผู้มาเยือน หนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจที่สุดซึ่งช่วยให้เกิดการสื่อสารตั้งอยู่ตรงกลาง ใกล้จอแสดงผล ซึ่งเป็นจอสัมผัส ผู้มาเยือนสามารถหยิบยกสินค้าหลากหลายชนิดจากชั้นวางได้ สินค้าเหล่านี้รวมถึงลูกอมขนาดใหญ่ รถเข็นช้อปปิ้งที่มีแบรนด์ของร้าน และกระป๋องโซดาที่พิมพ์โลโก้ขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยแท้จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความตลกขบขันมากที่สุด และยังสามารถมองเห็นได้ง่ายที่สุดในภาพถ่าย
ฟีเจอร์เพิ่มเติมอีกอย่างของระบบปฏิบัติการคือหน้าจอสัมผัส ซึ่งผู้ใช้สามารถลูบและเลือกฟิลเตอร์สำหรับรูปภาพของพวกเขาให้เข้ากับธีม เช่น "Retro Mart," "Bubble Pop," และสุดท้าย "Futuristic Glow" นอกจากนี้ ฟีเจอร์ที่ไม่พลาดในนี้คือความเป็นจริงแบบเคลื่อนไหว โดยเทคโนโลยีบางอย่างจะเพิ่มองค์ประกอบเสมือนจริง เช่น การบินของถุงของชำในอากาศ หรือแสงระยิบระยับที่ชั้นวางของ ทั้งหมดนี้รวมถึงการโต้ตอบแบบเรียลไทม์กับผู้ใช้ด้วย
เทคโนโลยีกล้อง
บูธนี้ใช้กล้องความละเอียดสูงพร้อมฟีเจอร์ปรับแสงได้และระบบกรอบภาพอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ได้ภาพคุณภาพดีแม้เมื่อผู้เยี่ยมชมอยู่คนเดียว นอกจากนี้ยังมีโหมดกลุ่มที่สามารถใช้งานได้พร้อมกับฟังก์ชันนับถอยหลัง มุมกว้าง และการปรับแต่งพื้นหลัง
หลังจากที่พวกเขาถ่ายรูปเสร็จแล้ว ผู้เยี่ยมชมจะได้รับการต้อนรับด้วยสถานีดิจิทัลซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถดูตัวอย่างและแก้ไขรูปภาพของพวกเขาได้ทันที สถานีนี้มอบตัวเลือกในการส่งรูปทางอีเมล พิมพ์เป็นรูปถ่ายสไตล์เรโทร หรืออัปโหลดไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยตรงผ่านฟังก์ชันแชร์เพียงคลิกเดียว
การออกแบบเสียงและการดมกลิ่น
ภายในบูธยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อโรมาอ่อนๆ ของขนมหวานและผลไม้ citrus ปล่อยกลิ่นหอมสดชื่นในอากาศและทำให้ประสาทสัมผัสของแขกได้รับความเพลิดเพลินมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เสียงเบื้องหลัง เช่น เสียงแตรเตือนของเครื่องสแกนและเสียงระฆังเบาๆ ก็สร้างประสบการณ์แบบจัดเต็ม
5. ผลกระทบบนโซเชียลมีเดีย
บูธถ่ายรูปในธีมร้านสะดวกซื้อแฮปปี้ มินิ มาร์ท กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียตั้งแต่ช่วงเวลาที่เปิดตัว โดยบัญชีอินสตาแกรมอย่างเป็นทางการของบูธนี้ดึงดูดผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คนภายในสัปดาห์แรก ในขณะที่เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นได้ถูกแชร์จากทุกมุมโลก แฮชแท็ก #HappyMiniMartMoments มียอดวิวเกินกว่า 8 ล้านครั้งบน TikTok เพียงแค่สามวัน
อะไรทำให้บูธนี้กลายเป็นไวรัล? มีหลายปัจจัยที่มีผล เช่น การดึงดูดทางสายตา การมีปฏิสัมพันธ์ และโอกาสที่เหมาะสม นักออกแบบได้ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเข้าใกล้กลุ่มผู้ชมมากขึ้น และมอบโอกาสให้กับผู้สร้างคอนเทนต์ขนาดเล็กหลากหลายคนในการนำเสนอและโปรโมตการติดตั้งนี้ล่วงหน้า การเปิดเผยเบื้องหลังของพวกเขานั้นสัญญาว่าจะมีฉากสีสันสดใสและตัวเลือกอุปกรณ์เสริมที่ตลกขบขัน ซึ่งช่วยสร้างแรงกระเพื่อม
ในแต่ละสถานีของบูธถ่ายภาพ ผู้เข้าชมสามารถพบกับ QR code ที่สแกนได้และเชื่อมโยงไปยังบัญชีของแบรนด์ทางการของบูธ นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้พวกเขาแชร์และแท็ก ในอินสตาแกรม บูธจะนำรูปถ่ายที่สร้างสรรค์ที่สุดมาโพสต์ซ้ำทุกวัน และมอบโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่กับท่าโพสและอุปกรณ์เสริม
แนวคิดจากอินฟลูเอนเซอร์ได้รับการสนับสนุนอย่างมากบนโซเชียลมีเดีย กลุ่มคนหลากหลาย – บางคนมาจากต่างประเทศ และบางคนเป็นคนท้องถิ่น – เข้าร่วมในรายการสด การออกไปเที่ยว และกิจกรรมถ่ายภาพ เช่น การท้าทายผู้ติดตามให้ทำตาม โดยเน้นว่าไม่ใช่แค่เรื่องปกติธรรมดาอีกต่อไป แต่กลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่โต พวกเขาทำให้ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริง ซึ่งทำให้คนในพื้นที่ต่าง ๆ สามารถเข้าร่วมได้ง่ายขึ้น แม้กระทั่งบางประเทศต่างชาติก็ได้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้
การระบาดครั้งนั้นได้ดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง เว็บไซต์เกี่ยวกับสไตล์ แฟชั่น และบันเทิงหลายแห่งได้นำภาพมาแสดงและขอบคุณผู้จัดงานสำหรับนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์และความคิดเห็นเชิงบวกที่ตามมา สถานที่นี้ไม่ใช่พื้นที่ถ่ายรูปธรรมดาอีกต่อไป มันกลายเป็นสถานการณ์ที่ผู้คนอยากมีส่วนร่วม
6. การตอบรับจากชุมชนและการทำธุรกิจ
นอกจากกระแสในโซเชียลมีเดียแล้ว บูธถ่ายรูปธีมร้านสะดวกซื้อแฮปปี้มินิมาร์ทยังเป็นจริงและได้รับผลกระทบโดยตรงจากชุมชนผู้อาศัยใกล้เคียง มันถูกจัดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลาทำงาน เมื่อธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่นสามารถได้รับประโยชน์จากผู้คนที่ถูกดึงดูดเข้ามาหาบูธ โดยเพียงแค่สุดสัปดาห์แรกก็พบว่ามีรายได้จากการขายของคาเฟ่ในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 40%
ผู้นำชุมชนพื้นเมืองและชาวบ้านให้การยอมรับกับบูธ เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจที่เหมาะสม แต่ยังอยู่ภายนอกและปลอดภัย อีกทั้งผู้นำเสนอให้มีการตั้งบูธต่าง ๆ ในฤดูกาลเพื่อให้การเดินทางมีความต่อเนื่องและกระจายได้ดี
ความร่วมมือระหว่างบูธและแบรนด์เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเปิดโอกาสให้มีการสร้างแบรนด์ร่วมกัน บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคบางแห่งที่เกี่ยวข้องกับโครงการบูธถ่ายภาพ มีอิสระในการทำงานเกี่ยวกับแนวคิดบรรจุภัณฑ์ และแม้กระทั่งมอบของรางวัลพิเศษเพิ่มเติม ในความจริงแล้ว แบรนด์โซดาท้องถิ่นรายหนึ่งได้เปิดตัวรส "Happy Grape" ในจำนวนจำกัด ซึ่งวางขายเฉพาะที่ร้านค้าของผู้เข้าชม สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการตลาดเชิงประสบการณ์แบบนี้ ที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ของบูธได้ และยังทำยอดขายจริงในหลาย ๆ สถานที่รอบ ๆ
นอกจากนี้ บูธยังจัดกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนและองค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อให้โอกาสแก่นักเรียนและสมาชิกในชุมชนได้สัมผัสกับความสนุกเช่นกัน แต่จะได้รับส่วนลด ซึ่งการกระทำนี้สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการรวมกลุ่มลูกค้า และยังมองว่าบูธเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับชุมชนเป็นลำดับแรก
7. แผนงานอนาคตและการขยายตัว
บูธถ่ายภาพธีมร้านสะดวกซื้อแฮปปี้มินิมาร์ทได้รับความนิยมอย่างมากจนทีมพัฒนาได้เริ่มทำงานในแผนสำหรับอนาคตแล้ว โครงการแรกคือการออกแบบบูธแบบพกพาที่สามารถปรากฏในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า เทศกาล และงานแสดงสินค้า แม้ว่าสถานที่และธีมของกิจกรรมจะเปลี่ยนไป การออกแบบแบบแยกส่วนยังคงถูกนำมาใช้ โดยแกนหลักของบูธจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะปรับแต่งตามสถานที่และธีมของกิจกรรม
บูธที่สอง "The Midnight Mart" กำลังเตรียมการด้วยองค์ประกอบต่างๆ เช่น การส่องสว่างแบบมืด ป้ายไฟนีออน และสไตล์ไซเบอร์พังก์เพื่อให้ได้ลุคของร้านสะดวกซื้อ ตั้งใจสำหรับผู้ชมกลุ่มอายุมากกว่าเล็กน้อยและจะใช้เพื่อสำรวจความแตกต่างที่เท่ ในขณะเดียวกันยังคงความโต้ตอบไว้ได้
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาคือแอปพลิเคชันบนมือถือที่ผู้ใช้สามารถใช้เพื่อใส่ฟิลเตอร์รูปภาพที่บูธนำเสนอลงในรูปภาพของตนเองได้ ด้วยวิธีนี้ ประสบการณ์จากบูธกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกเสมือนจริง และดังนั้นขอบเขตอิทธิพลของบูธจึงเกินขีดจำกัดของการอยู่แต่ในโลกทางกายภาพ
พันธมิตรในอนาคต เช่น เซนเตอร์การค้าระหว่างประเทศ ปาร์คธีม อэрพอร์ต กำลังเจรจากับทีมงานเพื่อนำโครงการไปดำเนินการต่างประเทศ แนวคิดนี้จะถูกนำเสนอสู่ตลาดผ่านแพลตฟอร์มทางสังคมและการทำธุรกิจต่าง ๆ และข้อตกลงนั้นมีความสำคัญเป็นพิเศษหากความเต็มใจของต่างชาติได้ผลสำเร็จ หากประสบความสำเร็จ Happy Mini-Mart อาจสร้างเครือข่ายสถานบันเทิงแบบแฟรนไชส์ทั่วโลกได้ เช่นเดียวกับ Museum of Ice Cream หรือ Color Factory
8. สรุป
Happy Mini-Mart Theme Photo Booth ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ที่ให้ความสนุกสนานเท่านั้น — มันยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความสามารถของการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ ความทรงจำทางวัฒนธรรม และสื่อดิจิทัลที่สามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่มีความหมาย นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่แท้จริงและยอดเยี่ยมเกี่ยวกับวิธีที่ร้านขายของท้องถิ่นแบบดั้งเดิมสามารถผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสตูดิโอสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว และกลายเป็นสถานที่ใหม่ที่สนุกสนานในการทำของที่ระลึก
ตั้งแต่วันที่เปิดงานและกระแสความตื่นเต้นของการได้รับความนิยมออนไลน์ ไปจนถึงสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ดีและวิสัยทัศน์ของธุรกิจใหม่ๆ เรื่องราวของบูธแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประสบการณ์เชิงโต้ตอบและการมองเห็นในยุคของเรา เมื่อมันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ Happy Mini-Mart เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
ไม่ว่าคุณจะชอบถ่ายเซลฟี่เป็นครั้งคราวหรือเป็นผู้ผลิตเนื้อหาชั้นนำ บูธถ่ายรูปยังคงรับประกันว่าคุณจะได้รับสิ่งที่ลืมไม่ลงและพิเศษเฉพาะตัว นี่แหละคือวิธีที่ Happy Mini-Mart ในเมืองที่ให้ความสำคัญกับความสร้างสรรค์และการเชื่อมโยง ได้แนะนำและตอบสนองความต้องการของชุมชนด้วยบรรยากาศแห่งความสุข